อัพเดทล่าสุด: 2 ต.ค. 2024
655 ผู้เข้าชม
Work and Holiday ออสเตรเลีย
ใครอยากโกอินเตอร์มาทางนี้! Work And Holiday ที่ Australia 2024 เปิดลงทะเบียน 23 เมษานี้
โอกาสมาถึงแล้ว สำหรับผู้ที่สนใจที่จะไปทำงาน ท่องเที่ยว และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม เพจเฟซบุ๊ก กรมกิจการเด็กและเยาวชน ได้โพสต์ประชาสัมพันธ์ถึงการเปิดรับสมัครโครงการ Work And Holiday Australia 2024
Work and Holiday Visa คืออะไร
Work and Holiday คือ โครงการแลกเปลี่ยนที่สนับสนุนให้เยาวชนได้ออกไปเรียนคอร์สระยะสั้น ทำงานชั่วคราว และท่องเที่ยวในออสเตรเลียเพื่อเปิดโลกทัศน์ หาประสบการณ์ชีวิต ฝึกฝนการใช้ภาษาอังกฤษ รวมถึงเรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทาง โดยจะเป็นการให้วีซ่าถูกกฎหมายเป็นระยะเวลา 1 ปี
ข้อกำหนดการเรียนและการทำงานภายใต้วีซ่า Work and Holiday คือ
สามารถเรียนคอร์สระยะสนั้นได้สูงสุด 4 เดือน (17 สัปดาห์)
สามารถทำงานประเภทใดก็ได้ แต่สามารถทำงานกับนายจ้างที่หนึ่งได้ไม่เกิน 6 เดือน
โดยต้องคุณสมบัติมีดังนี้
มีสัญชาติไทย
2. มีอายุระหว่าง 18 30 ปี(ไม่เกิน 31 ปีบริบูรณ์ ณ วันที่ยื่นวีซ่ากับทางสถานทูตฯ)
3. สำเร็จการศึกษา ตั้งแต่ระดับปริญญาตรีขึ้นไป
4. มีหลักฐานแสดงทักษะการใช้ภาษาอังกฤษอย่างใดอย่างหนึ่ง ผลการสอบต้องมีอายุไม่เกิน 1 ปี (ใช้วันที่เข้าสอบเป็นเกณฑ์) ตามรายการดังนี้
ผลการสอบ IELTS รวมทุกทักษะ (over all) ไม่ต่ำกว่า 4.5
TOEFL iBT รวมทุกทักษะ (over all) ไม่ต่ำกว่า 32
PTE Academic รวมทุกทักษะ (over all) ไม่ต่ำกว่า 30
Cambridge English: CAE รวมทุกทักษะ (over all) ไม่ต่ำกว่า 147
ใบแสดงวุฒิการศึกษาและใบแสดงผลการเรียนระดับปริญญาบัตร หรือ ประกาศนียบัตรจากประเทศออสเตรเลีย หลักสูตร 1 ปี
ใบแสดงวุฒิการศึกษาและใบแสดงผลการเรียน ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ระดับอนุปริญญา/ปริญญาตรีขึ้นไป หลักสูตรเต็มเวลาที่ใช้ภาษาอังกฤษ ระยะเวลาอย่างน้อย 2 ปี
ใบแสดงวุฒิการศึกษา และ ใบแสดงผลการเรียนระดับมัยมศึกษา หลักสูตรที่ใช้ภาษาอังกฤษ ระยะเวลา 5 ปี
ใบเสดงวุฒิการศึกษา และ ใบแสดงผลการเรียน ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น และหลักสูตรที่ใช้ภาษาอังกฤษ
5. ต้องเดินทางคนเดียว (ไม่มีผู้ติดตาม)
6. มีหลักฐานการเงินเป็นบัญชีออมทรัพย์ (ของผู้สมัครเอง) เป็นจำนวน 5,000 AUD หรือประมาณ 120,000 บาทไทย
7. มีความประพฤติและสุขภาพดี
8. มีหนังสือรับรองคุณสมบัติ ซึ่งออกให้โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ทั้งนี้ การสมัครขอรับหนังสือรับรองคุณสมบัติดังกล่าว ผู้สมัครจะต้องยื่นเอกสารสำคัญ ดังนี้
ใบสมัคร (พิมพ์มาจากการสมัครผ่านทางระบบออนไลน์)
ปริญญาบัตร หรือ หนังสือรับรองการสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ฉบับจริง พร้อมสำเนา 1 ชุด โดยเอกสารต้องออกก่อนวันที่เปิดรับสมัครออนไลน์
ใบรายงานผลการศึกษา (Transcript) ฉบับจริง พร้อมสำเนา 1 ชุด
หนังสือเดินทางที่มีอายุการใช้งานเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน ฉบับจริง พร้อมสำเนา 1 ชุด
บัตรประจำตัวประชาชน ฉบับจริง พร้อมสำเนา 1 ชุด
ทะเบียนบ้าน ฉบับจริง พร้อมสำเนา 1 ชุด
หลักฐานเกี่ยวกับทักษะการใช้ภาษาอังกฤษดังกล่าวข้างต้น*
หลักฐานการเงินเป็นบัญชีออมทรัพย์ (ของผู้สมัครเอง) จำนวน 5,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย เป็น Bank Statement หรือใบรับรองทางการเงินของบัญชีเงินฝากจากธนาคาร โดยชื่อบัญชีจะต้องเป็นชื่อของผู้เดินทางเท่านั้น
แผนการเดินทางโดยคร่าว ๆ และประเภทงานที่สนใจจะทำระหว่างอยู่ออสเตรเลีย (เขียนสรุปไม่เกิน 1 หน้า เป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ)
บันทึกข้อตกลงที่ผู้ปกครองลงนามเรียบร้อยแล้ว
สำเนาทะเบียนบ้านและสำเนาบัตรประชาชนผู้ปกครอง
ข้อควรทราบเพิ่มเติมจากทาง ดย.
ห้ามทำการสมัครเข้าร่วมโครงการผ่านบริษัทนายหน้าที่รับเป็นตัวกลางทำการสมัคร และ / หรือจัดหาที่อยู่ให้เด็ดขาด เนื่องจากผิดวัตถุประสงค์ของโครงการ และอาจทำให้ไม่ได้รับวีซ่า รวมทั้งอาจตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพได้
วีซ่าประเภทนี้ ไม่ใช่วีซ่าทำงาน ดังนั้น หากพบว่าทำงานประจำ ณ ที่ใดเกินกว่า 6 เดือน จะถือว่าได้ทำผิดกฎหมาย อาจถูกถอนวีซ่าและถูกส่งกลับประเทศได้
หากตรวจสอบพบว่าผู้สมัครมีเจตนากรอกข้อมูลเท็จ ดย. จะตัดสิทธิ์ผู้สมัครทันที
การมีใบรับรองคุณสมบัติไม่ได้หมายความว่าวีซ่าจะผ่าน แต่การยื่นขอวีซ่าได้จะต้องมีใบรับรองจากทาง ดย.ก่อน
การพิจารณาวีซ่าขึ้นอยู่กับทางสถานทูตออสเตรเลียเท่านั้น
เอกสารที่ต้องใช้ยื่นประกอบ วีซ่า Work and Holiday
เอกสารส่วนตัว
พาสปอร์ตตัวจริง (รวมถึงพาสปอร์ตเล่มเก่าๆ ถ้ามี รวมถึงประวัติการเดินทาง) อายุพาสปอร์ตต้องเหลือมากกว่า 6 เดือน (สแกนหน้าแรกและหน้าที่มีตราประทับเดินทางทุกหน้า)
รูปถ่ายหน้าตรง ใบหน้าชัดเจน พื้นหลังสีขาว ขนาด 4.5 x 3.5 cm ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน
สำเนาบัตรประชาชน / สำเนาทะเบียนบ้าน (พร้อมฉบับแปลภาษาอังกฤษ)
หลักฐานทางราชการต่างๆ เช่น สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ นามสกุล / สำเนาทะเบียนสมรส หย่า (พร้อมฉบับแปลภาษาอังกฤษ)
หลักฐานผ่านการเกณฑ์ทหาร หรือเรียน รด. (สำหรับผู้ชายพร้อมฉบับแปลภาษา
หลักฐานการศึกษา Transcript และใบรับรองจบปริญญาบัตร (หากเป็นภาษาไทยต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษ)
หลักฐานการผ่านงาน ในกรณีที่ผ่านการทำงานมาแล้ว (หากเป็นภาษาไทยต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษ)
หลักฐานเกี่ยวกับทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ เช่น ผลการสอบ IELTS / TOEFL หรือใบรับรองผลการศึกษาหลักสูตรภาษาอังกฤษ
หนังสือรับรองคุณสมบัติจาก กรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.)
Tips : ในการยื่นขอวีซ่าออสเตรเลีย ควรแนบ หลักฐานการทำงาน ไปด้วย เพราะจะแสดงให้เห็นถึงประวัติของเราว่าทำงานอะไรมาบ้างค่ะ
ในกรณี Sponsor ตัวเอง
หลักฐานการเงิน ในการยื่นเอกสารกับทางสถานฑูตออสเตรเลีย (เอกสารที่แนะนำให้แนบไปด้วยเลยคือ Bank Statement ย้อนหลัง 6 เดือนของผู้เดินทางหรือของสปอนเซอร์ไม่น้อยกว่า 5,000 AUD)
จดหมายชี้แจงเรื่องหลักฐานการเงิน ในกรณีที่มียอดเงินเข้ามาไม่นาน หรือไม่ถึง 6 เดือน
ในกรณี Sponsor โดยบุคคลอื่น
จดหมายรับรองค่าใช้จ่าย (เขียนเป็นภาษาอังกฤษพร้อมเซ็นรับรอง)
เอกสารส่วนตัวของ Sponsor เช่น สำเนาบัตรประชาชน / สำเนาหน้าพาสปอร์ต
หลักฐานแสดงความสัมพันธ์ เช่น สำเนาทะเบียนบ้าน / สำเนาทะเบียนสมรส / สำเนาสูติบัตร พร้อมฉบับแปลภาษาอังกฤษ
หลักฐานการเงิน (Bank Statement ย้อนหลัง 6 เดือน ของผู้เดินทางหรือของสปอนเซอร์ไม่น้อยกว่า 5,000 AUD)
จดหมายชี้แจงเรื่องหลักฐานการเงิน ในกรณีที่มียอดเงินเข้ามาไม่นาน หรือไม่ถึง 6 เดือน
Tips : ทางสถานทูต จะขอดู ที่มาของเงิน ในช่วง 6 เดือนก่อนยื่นวีซ่า หากมีเงินก้อนใหญ่เข้ามาทีเดียว เราต้องสามารถอธิบายแหล่งที่มาของเงินนั้นให้ได้ พร้อมแนบหลักฐานด้วย เช่น จดหมายจากบุคคลที่โอนเงินเข้ามาให้เราว่าโอนให้เพราะอะไร อย่างไร แสดงที่มาของเงินเข้า-ออก และมีความสัมพันธ์อะไรกับเรา เป็นต้น
สามารถสมัครได้ตั้งแต่วันที่ 23 30 เมษายน 2567
สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook กรมกิจการเด็กและเยาวชน และเว็บไซต์ www.dcy.go.th