สำหรับผู้ที่ถือวีซ่าสหรัฐอเมริกาแบบ B1/B2 และต้องการต่ออายุ คุณสามารถทำการต่อวีซ่าได้อย่างง่ายดายผ่านทางไปรษณีย์โดยไม่ต้องเข้าสัมภาษณ์ หากคุณมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดที่สถานทูตกำหนด บทความนี้ Visatogo จะอธิบายขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อให้คุณทราบถึงกระบวนการและวิธีการเตรียมเอกสารที่ถูกต้อง
1. ตรวจสอบคุณสมบัติ
ตรวจสอบว่าคุณมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดสำหรับการต่ออายุวีซ่าทางไปรษณีย์:
-คุณต้องมีวีซ่าสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ที่หมดอายุไม่เกิน 48 เดือน (หรือระยะเวลาที่สถานทูตกำหนด)
- วีซ่าก่อนหน้าของคุณต้องไม่มีการถูกปฏิเสธหรือถูกยกเลิก
- คุณต้องมีสัญชาติไทยหรือพำนักอยู่ในประเทศไทยในขณะทำการขอวีซ่าใหม่
- ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด และสัญชาติ ที่ระบุอยู่ในหน้าวีซ่าที่เคยได้รับ ต้องตรงกับข้อมูลในหนังสือเดินทางเล่มปัจจุบัน
คุณพ่อ คุณแม่ หรือผู้ปกครองที่ถูกต้องตามกฎหมายอย่างน้อยหนึ่งท่านจะต้องมีวีซ่าประเภท B1/B2 (ธุรกิจ/ท่องเที่ยว) ที่ยังไม่หมดอายุ ณ วันที่ยื่นใบสมัคร
คุณพ่อ คุณแม่ หรือผู้ปกครองที่ถูกต้องตามกฎหมายจะต้องไม่เป็นผู้มีถิ่นพำนักถาวรที่อเมริกา หรือถือ green card หรือถือสัญชาติอเมริกัน
2. กรอกแบบฟอร์ม DS-160
- กรอกแบบฟอร์มการขอวีซ่าออนไลน์ DS-160 ผ่านเว็บไซต์ [CEAC](https://ceac.state.gov/ceac/)
ยื่นคำร้อง DS-160 ทางออนไลน์ โดยต้องกรอกข้อมูลให้ถูกต้อง กดยื่นออนไลน์แล้วปริ้นส์ตัวใบสมัคร พร้อมใบยืนยันการสมัครออกมา (ในกรณีที่ยังไม่อยากกดยื่นออนไลน์ หรือยังไม่มีเวลากรอกให้เสร็จในทีเดียว ให้จดเลขโค้ด 10 ตัว และsecurity answer ให้ครบถ้วน เพื่อที่จะได้ล็อกอินเข้าระบบไปกรอกต่อได้ในภายหลัง) ใบสมัครที่ปริ้นส์ออกมาให้เก็บเอาไว้เป็นข้อมูลเท่านั้นไม่ต้องยื่นเข้าสถานทูต เพื่อให้ทราบว่าเราได้ยื่นข้อมูลอะไรไปให้สถานทูตบ้าง เพราะถ้าเราไม่ปริ้นส์ออกมา ณ วันที่เรากดยื่นใบสมัคร ระบบจะไม่สามารถให้เราปริ้นส์ได้อีกในภายหลัง เพราะฉะนั้นให้ปริ้นส์ออกมาเพื่อเก็บไว้เป็นข้อมูลของเราเอง ส่วนใบยืนยันการสมัครต้องยื่นเข้าสถานทูตด้วย สร้างแอคเคาท์ใบสมัคร หรือโปรไฟล์ เพื่อทำจ่ายค่าธรรมเนียมวีซ่า 160$ หรือเรทปัจจุบัน 6,660 บาท โดยเข้าไปทำได้จาก Link นี้เลยค่ะ https://portal.ustraveldocs.com/?language=Thai&country=Thailand
3. จ่ายค่าธรรมเนียมการขอวีซ่า
ชำระค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าผ่านช่องทางที่กำหนด (เช่น การชำระผ่านธนาคารที่ได้รับการรับรอง)
- เก็บใบเสร็จรับเงินการชำระค่าธรรมเนียมไว้เป็นหลักฐาน
4. ลงทะเบียนและจัดเตรียมเอกสาร
ลงทะเบียนออนไลน์และจัดเตรียมเอกสารต่างๆ รวมถึง:
- แบบฟอร์มยืนยันการขอยื่นวีซ่าทางไปรษณีย์ที่มี UID และ QR code
- หนังสือเดินทางเล่มปัจจุบัน เช็คดูให้แน่ใจว่ามีหน้าว่างเหลืออยู่อย่างน้อย 2 หน้าเพื่อสถานทูตสามารถติดหน้าวีซ่าให้ได้
- หนังสือเดินทางเล่มเก่าที่มีวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา ที่ยังไม่หมดอายุหรือหมดอายุไปแล้วไม่เกิน 4 ปี (ในกรณีที่หน้าวีซ่าไม่ได้อยู่ในเล่มปัจจุบัน)
- แบบฟอร์มยืนยันการสมัคร DS160 ที่มีแถบบาร์โค้ด หรือใบยืนยันการสมัคร (เอกสารตามที่อธิบายไว้ในข้อ 1 ในหัวข้อขั้นตอนการสมัคร)
- รูปถ่าย 2 รูป ขนาด 2×2 นิ้ว รูปสี พื้นหลังสีขาว เปิดหน้าเปิดหู ห้ามใส่หมวก ห้ามใส่แว่นตา
- ใบเสร็จชำระค่าธรรมเนียมวีซ่า
5. ส่งเอกสารทางไปรษณีย์
เมื่อคุณชำระค่าธรรมเนียมและเตรียมเอกสารครบถ้วนแล้ว ให้คุณนำเอกสารทั้งหมดส่งไปที่ศูนย์ให้บริการวีซ่า (US Visa Application Center - VAC) ผ่านไปรษณีย์ที่ได้รับการยอมรับ เช่น DHL หรือไปรษณีย์ไทยตามที่สถานทูตระบุ
6. ติดตามสถานะ
ติดตามสถานะการขอวีซ่าของคุณผ่านเว็บไซต์ของศูนย์รับเรื่องการขอวีซ่า หรือระบบติดตามออนไลน์ที่สถานทูตสหรัฐฯ ให้บริการ ระยะเวลาการดำเนินการในการต่ออายุวีซ่าอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละสถานทูต โดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์นับจากวันที่คุณส่งเอกสารไปที่ศูนย์บริการของสถานทูต
7. รับหนังสือเดินทางพร้อมวีซ่า
เมื่อเอกสารของคุณได้รับการอนุมัติ คุณจะได้รับการส่งคืนหนังสือเดินทางที่ต่ออายุวีซ่ามาใหม่ พร้อมกับเอกสารประกอบอื่น ๆ ผ่านไปรษณีย์ที่คุณใช้ในการส่งครั้งแรก